หาก Bitcoin ถูกนำสร้างมาเพื่อแทนที่สกุลเงินแบบเก่า Ethereum ก็ถูกสร้างมาเพื่อแทนที่ระบบอินเตอร์เน็ต และคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่อยู่ในรูปแบบกระจายศูนย์โดยตัดตัวกลางอย่างเช่น Google, Facebook และ Amazon ออก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ หรือการที่ผู้ให้บริการใช้อำนาจมาควบคุมและหาผลประโยชน์จากข้อมูลของเรานั่นเอง โดย Ethereum นั้นมีฟังก์ชันพิเศษเด่น ๆ ที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายดังนี้
1. Smart Contract
Smart Contract หรือสัญญาอัจฉริยะ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานอยู่บนบล็อกเชนของ Ethereum โดยต่างจากระบบสัญญาแบบเก่าจากการที่มันสามารถทำงานได้โดยอัติโนมัติตามเงื่อนไขที่ผู้เขียนกำหนดไว้ จึงเหมาะกับการใช้แลกเปลี่ยนเอกสารกรรมสิทธิ์ เช่น ที่ดินหรือหุ้น โดยตัดหน่วยงานที่เป็นตัวกลางออกไป เพราะระบบจะทำงานในรูปแบบดิจิทัลทั้งหมด อีกทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือเพราะมันทำงานอยู่บนบล็อกเชน ที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปแก้ไขหรือปลอมแปลงข้อมูลได้ง่าย ๆ และยังมีความทนทานไม่ต้องกังวลว่าหนังสือสัญญาจะหาย ถูกขโมย หรือไฟไหม้ เพราะรูปแบบการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์นั้นจะส่งสำเนาของเราไปเก็บไว้ในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกนั่นเอง
2. ใช้สร้างโทเคนของตัวเอง
หากการสร้างคริปโตเคอเรนซี่ของตัวเองดูจะยุ่งยากเกินไป Smart Contract นั้นก็ช่วยให้การสร้างเหรียญของตัวเองเป็นเรื่องง่าย ผ่านการออก ICO หรือการเสนอขายเหรียญในรูปแบบของ ERC20 Token ที่อาศัยบล็อกเชนของ Ethereum ในการทำงาน ช่วยให้โปรเจกต์เล็ก ๆ ไม่ต้องลงทุนพัฒนาบล็อกเชนของตัวเอง และสามารถสร้างระบบหรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มของ Ethereum โดยจ่ายค่าเช่าหรือ Gas ให้แก่ระบบเป็นการตอบแทน
3. ระบบการเงินแบบกระจายศูนย์หรือ DeFi
ปัจจุบันนี้กระแสการสร้างระบบการเงินแบบกระจายศูนย์หรือ Decentralized Finance ที่เรียกย่อ ๆ ว่า DeFi นั้นกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเป็นการสร้างระบบการเงินรูปแบบใหม่โดยอาศัย Smart Contract ที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางอย่างธนาคารในการฝากเงินเพื่อรับดอกเบี้ย หรือการกู้ยืมเงินโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นหลักค้ำประกัน
ดูวีดีโอเพิ่มเติม: https://youtu.be/eHFmFgoH5pA